เสี่ยหมี่เคยเกือบเป็นเจ้าของอาร์เซน่อล
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ครั้งหนึ่งนายโรมัน อับราโมวิช เกือบได้ครอบครองสโมสรอาร์เซน่อล อย่างไรก็ตามเกิดข้อผิดพลาดบางอย่างระหว่างเจรจากับแบงก์ใหญ่ในสวิสเซอร์แลนด์ จึงส่งผลให้มหาเศรษฐีชาวรัสเซียหันไปเทกโอเวอร์สโมสรเชลซีแทน ซึ่งเดิมทีเสี่ยหมีชื่นชอบสโมสรเดอะกันเนอร์อย่างมาก เนื่องจากเขาต้องการเข้ามายกระดับสโสมรภายใต้การนำของเวงเกอร์ และนักเตะคนโปรดอย่างเธียร์รี่ อองรี
หลังไม่ประสบความสำเร็จในการเทกโอเวอร์สโมสรอาร์เซน่อล มหาเศรษฐีขาวรัสเซียจึงหันไปเทกโอเวอร์สโมสรเชลซีที่ลอนดอนตะวันตกแทน อย่างไรก็ตามถึงแม้จะพลาดเป็นเจ้าของเดอะกันเนอร์ แต่เสี่ยหมี่ต้องการดึงตัวเธียร์รี่ อองรี ย้ายมาล่าตาข่ายที่สแตมฟอร์ด บริดจ์แทน โดยรายงานดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดยนักเขียนชื่อดังจาก วอลล์ สตรีท เจอร์นอล ใน ดิ คลับ
นักเขียนชื่อดังทั้ง 2 คนมีโอกาสพูดคุยกับบรรดาผู้บริหารระดับสูงพรีเมียร์ลีกมากมาย ก่อนจะรวมรวมข้อมูลทั้งหมดอัดเล่มตีพิมพ์ให้แฟน ๆ ลูกหนังได้อ่านเรื่องราวที่อยู่หลังม่านโลกฟุตบอล โดยเฉพาะเหตุการณ์ปี 2003 ยูบีเอส แบงก์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นายโรมันได้ว่าจ้างนักเศรษฐศาสตร์ระดับมันสมองของธนาคารดังกล่าว เพื่อตรวจสอบสถานะทางการเงินสโมสรต่าง ๆ ในพรีเมียร์ลีก
หนึ่งในข้อมูลที่ทางนักเศรษฐศาสตร์กล่าวกับนายโรมันว่า “อาร์เซน่อลยังไม่เหมาะสมต่อการเข้าซื้อ” จากคำแนะนำดังกล่าว ส่งผลให้เศรษฐีชาวรัสเซียหันไปทุ่มเงิน 140 ล้านปอนด์ ซื้อสโมสรเชลซีแทน ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศ 5 ใบ รวมแชมป์ลีกสูงสุด และแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปียนลีกอีก 2 ครั้ง
ขณะเดียวกันภายในหนังสือดังกล่าวยังเปิดเผยอีกว่า เดวิด ดีน รองประธานสโมสรอาร์เซน่อลขณะนั้นเป็นเพียงไม่กี่คนที่แอบเห็นด้วยว่า อาร์เซน่อลควรตกเป็นของนายอับราโมวิชมากกว่า เพื่อมหาเศรษฐีจะนำความมั่งคั่งเข้ามาสู่สโมสรแบบไร้ขีดจำกัด ขณะเดียวกันยังมีการเปิดเผยอีกว่า นายอับราโมวิชได้เข้าพบกับประธานสโมสรท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ด้วยเช่นกัน
ครั้งหนึ่งนายโรมันกำลังนั่งอยู่บนรถเบนซ์ที่กำลังพาดผ่านถนนท็อตแน่มไฮโร้ด ย่านลอนดอนเหนือ นักธุรกิจชาวรัสเซียมองออกไปข้างทางก่อนจะบ่นว่า “แถวนี้บรรยากาศแย่กว่าออมสค์เสียอีก” สำหรับออมส์คคือเมือง ๆ หนึ่งที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ออกทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก ในท้ายที่สุดนายโรมัน อับราโมวิช ลงเอยกับทีมสแตมฟอร์ด บริดจ์กับระยะเวลายาวนานถึง 19 ปี ก่อนที่นายโทดด์ โบห์ลีย์ นักธุรกิจชาวอเมริกันทุ่มเงิน 4.25 พันล้านปอนด์ ในฐานะประธานสโมสรคนใหม่ของเขลซี และถือเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของสโมสรเดอะบลูส์ตะวันตกอย่างแท้จริง เพราะนายโบห์ลีย์มีไสตล์การบริหารงานค่อนข้างดุดันกว่าชายชาวรัสเซียมาก
ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ : ผลบอลสด
แจกทีเด็ดฟุตบอลรายวัน : ทีเด็ดฟุตบอล
Ingen kommentarer endnu